หัวสว่าน มีกี่ประเภท สามารถเลือกใช้ได้เหมาะกับงานได้ดีที่สุดหรือไม่
1 min readหัวสว่าน เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ร่วมกับสว่านเป็นวัตถุแรกที่กระทบวัตถุที่สร้างความเสียหายให้กับวัสดุจนเกิดเป็นรู ก่อนอื่นในการเจาะรูสิ่งที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจคือ ต้องใช้ดอกสว่านให้ถูกต้องกับชนิดงานที่ทำ ต้องใช้อย่างถูกต้องและลับคมตามความเหมาะสม สำหรับข้อมูลแรกคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจะใช้กับวัสดุใด เบื้องต้นชุดดอกสว่านเจาะเหล็กและชุดดอกสว่านเจาะอิฐ อาจเพียงพอสำหรับงาน DIY และงานช่างทั่วไป แต่สำหรับงานที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญนั้น จำเป็นต้องใช้ชุดดอกสว่านแบบพิเศษไม่ว่าจะยาวกว่าสั้นกว่าหรือออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หัวสว่าน คืออะไร
หัวสว่าน เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในเครื่องมือช่างที่ต้องมี ใช้ทำหน้าที่กัดเจาะเนื้อวัสดุต่าง ๆ ออกมาเป็นรู เพื่อที่เราจะได้ใช้รูในการจับยึด หรือ ตอกตะปู หรือ ใส่พุก เพื่อขันน็อตหรือสกรู ยึดน็อตได้สะดวก มีหลายแบบให้เลือกใช้มากมายหลายขนาด พัฒนาตามวัตถุประสงค์ของงาน หรือวัสดุที่ต้องการเจาะรู ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก ปูน หรืองานคอนกรีต
ประเภทของดอกสว่าน มีอะไรบ้าง?
โดยทั่วไป เราสามารถแยกประเภทตามลักษณะ การนำไปใช้งานอย่างง่าย ๆ ได้ ดังนี้
- ดอกสว่าน เจาะไม้ ลักษณะปลายดอกจะคล้ายหางปลา เป็นดอกว่านที่ใช้สำหรับเจาะไม้ที่มีขนาดไม่กว้างนัก โดยขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ขนาด 5, 6, 8 หรือ 10 มิลลิเมตร เช่น ใช้เจาะรู เพื่อใส่บานพับเหล็กบนประตู-หน้าต่าง หรือเจาะรูเพื่อร้อยสายไฟต่าง ๆ หรือตอกหมุน เพื่อการจับยึดไม้เข้าด้วยกัน บ้านไม้ ทรงโบราณนิยมใช้วิธีนี้กัน
- ดอกสว่านเจาะเหล็ก ลักษณะของดอกสว่านเป็นร่องเกลียวตัด (flute) ปลายดอกแหลมเป็นแบบ ป้องกันการหนีศูนย์ ในขณะเริ่มเจาะ (Split Point) ใช้สำหรับจิกนำศูนย์ เจาะได้ตรง ดังนั้น ดอกสว่านทำจากเหล็กกล้าไฮสปีด จึงสามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานหลากหลายที่อ่อนกว่าได้ เช่น ไม้ โลหะทั่วไป รวมถึงพลาสติกได้อีกด้วย
- ดอกสว่านเจาะคอนกรีต ลักษณะของดอกสว่านเป็นเกลียวบิด ส่วนปลายดอกเป็นเหล็กกล้าคาร์ไบด์ ปลายดอกออกแบบ(รูปทรงเจดีย์) เพื่อลดการหนีศูนย์ ในการเจาะกระเบื้องแผ่นเรียบที่มีความแข็งสูง ปลายคาร์ไบด์ช่วยรองรับแรงกระแทกจากการใช้งาน เหมาะสำหรับการเจาะปูน คอนกรีต ซีเมนต์บล็อก หรืออิฐมอญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนัง ดอกสว่านชนิดนี้จะผลิตจากเนื้อโลหะที่อ่อนกว่าส่วนหัวเจาะ สว่านหัวเจาะจะผลิตจากทังสเตนคาร์ไบด์
ดอกสว่านที่ดีต้องมี 2 ปัจจัยหลักดังนี้
- การออกแบบใช้งานของดอกสว่าน
ในขณะที่ดอกสว่านทำการเจาะชิ้นงาน จะเกิดแรงบิดและแรงกดจำนวนมาก เพื่อให้สามารถเจาะรูบนชิ้นงานได้ แต่ถ้าวัสดุที่น่ามาเจาะรูมีความแข็งมาก ดอกสว่านที่นำมาใช้จะต้องถูกออกแบบให้มีพื้นที่หน้าตัดขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับดอกสว่าน ดอกสว่านที่ถูกออกแบบให้มีพื้นที่หน้าตัดกว้าง จะมีข้อเสีย คือ มีร่องระบายเศษที่แคบ ซึ่งถ้าวัสดุที่นำมาเจาะรูมีเศษออกมาเป็นขนาดใหญ่ จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของการเจาะรูลดลงได้
- วัสดุที่ใช้ในการทำดอกสว่านและสารเคลือบ
วัสดุที่ใช้ในการผลิตดอกสว่าน มีทั้งประเภทที่เป็นเหล็ก และโลหะอื่น ๆ ที่มีความแข็ง โดยวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตดอกสว่าน คือ ซีเมนต์คาร์ไบด์ (Cemented Carbide) ซึ่งมีค่าความเหนียวสูง และความทนต่อการแตกหักได้ดี
ดอกสว่านที่ผลิตมาจากวัสดุที่แข็งแรงแล้ว ต้องมีสารเคลือบดอกสว่านที่ดี จะช่วยให้ดอกสว่านมีความต้านทานการสึกหรอสูง ลดการแตกบิ่นของดอกสว่านในขณะที่ทำการเจาะรู และช่วยยืดอายุการใช้งานดอกสว่านให้ยาวนานขึ้น
คำแนะนำการใช้งานทั่วไปที่ถูกต้อง
- ก่อนการเจาะรูทุกครั้ง ตรวจปลายดอกสว่านทุกครั้ง ถ้าไม่คมต้องทำการลับดอกสว่านใหม่ ถ้าเจาะต่อไปอาจทำให้ดอกสว่านร้อน และหักได้ ถ้าต้องการเจาะชิ้นงานต้องการความแม่นยำสูง ควรใช้เหล็กนำศูนย์ตอกนำเสียก่อนตรงตำแหน่งที่จะเจาะรู ตอกให้เป็นรอยบุ๋มเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้ปลายดอกสว่าน สามารถกินเนื้องานตรงกับจุดที่เราต้องการ ไม่กระโดดหนีศูนย์ออกไป ที่สำคัญจะต้องยึดชิ้นงานให้ติดแน่นอยู่กับที่ด้วยแท่นยึด
- ควรขันดอกสว่านให้แน่นทุกครั้งด้วยกุญแจขันหัวสว่าน ก่อนการใช้งาน เพราะถ้าดอกสว่านหลวม อาจทำให้หลุดกระเด็นออกมา หรือเจาะไม่เข้าได้ และเมื่อขันจนแน่นดีแล้ว ลองเปิดสวิตช์ให้สว่านหมุน เพื่อดูว่าปลายดอกสว่านหมุนแกว่งหรือไม่ ถ้าเราเห็นว่าดอกสว่านแกว่งไปมา แสดงว่าเสียศูนย์ ให้คลายดอกสว่านออกแล้วขันเข้าไปใหม่เสมอ
- ควรสวมแว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันผงฝุ่นที่เกิดจากการเจาะ รวมทั้งเศษวัสดุต่าง ๆ จากชิ้นงาน ซึ่งอาจกระเด็นมาเข้าตาได้ และควรแต่งกายให้รัดกุม เสื้อแขนยาวไม่ควรใส่ รวมถึงนาฬิกาด้วย เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ และเมื่อเลิกใช้งานแล้วให้ถอดดอกสว่านออกมา เพื่อทำความสะอาดก่อนนำไปเก็บเข้าที่